กำลังมองหากล่องสูญญากาศเพื่อถนอมอาหาร? เรียนรู้เกี่ยวกับประเภทของกล่องสูญญากาศที่หลากหลาย พร้อมคำแนะนำในการเลือกซื้อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ
กล่องสูญญากาศเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยถนอมอาหารให้สดใหม่ได้นานขึ้น ด้วยการดูดอากาศออกจากภายในกล่อง ทำให้แบคทีเรียและเชื้อราไม่สามารถเจริญเติบโตได้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่ากล่องสูญญากาศมีหลากหลายประเภท และแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การเลือกกล่องสูญญากาศให้เหมาะสมกับการใช้งาน จะช่วยให้คุณเก็บรักษาอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงประเภทของกล่องสูญญากาศแต่ละชนิด พร้อมทั้งข้อดี ข้อเสีย และคำแนะนำในการเลือกซื้อ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
ประเภทของกล่องสูญญากาศตามวัสดุ
- กล่องสูญญากาศพลาสติก : เป็นที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ราคาประหยัด และหาซื้อง่าย
- ข้อดี : พกพาสะดวก ไม่แตกง่าย มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ
- ข้อเสีย : อาจมีสารเคมี (BPA) หากไม่เลือกชนิด Food Grade อาจมีรอยขีดข่วนง่าย และอายุการใช้งานอาจสั้นกว่าวัสดุอื่น
- ประเภทพลาสติกที่ใช้ : PP , Tritan , SAN
- คำแนะนำ : เลือกชนิดที่ระบุว่า BPA Free และ Food Grade เพื่อความปลอดภัย
- กล่องสูญญากาศแก้ว : ทนทานต่อความร้อนและเย็นได้ดี เหมาะสำหรับใส่ของเหลวและอาหารร้อน
- ข้อดี : ปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่ดูดสีและกลิ่นอาหาร ทำความสะอาดง่าย
- ข้อเสีย : ราคาแพงกว่า พักพาไม่สะดวก และแตกหักง่าย
- ประเภทแก้วที่ใช้ : แก้ว Borosilicate
- คำแนะนำ : เลือกแก้ว Borosilicate ที่มีความแข็งแรงทนทาน
- กล่องสูญญากาศสแตนเลส : แข็งแรง ทนทาน ไม่เป็นสนิม เหมาะสำหรับเก็บอาหารที่ต้องการความคงทน
- ข้อดี : อายุการใช้งานยาวนาน ป้องกันแสงได้ดี เหมาะสำหรับเก็บอาหารที่มีกลิ่นแรง
- ข้อเสีย : ราคาสูง น้ำหนักมาก มองเห็นอาหารภายในได้ยาก
- ประเภทสแตนเลสที่ใช้ : สแตนเลส 304
- คำแนะนำ : เลือกสแตนเลส 304 ที่มีคุณภาพสูง
วัสดุ | ข้อดี | ข้อเสีย | เหมาะสำหรับ |
พลาสติก | น้ำหนักเบา , ราคาประหยัด | อาจมีสารเคมี , รอยขีดข่วน | อาหารทั่วไป , พกพา |
แก้ว | ปลอดภัย , ทนทาน | ราคาสูง , แตกง่าย | อาหารร้อน , ของเหลว |
สแตนเลส | แข็งแรง , ทนทาน | ราคาสูง , น้ำหนักมาก | อาหารที่มีกลิ่นแรง , อายุการใช้งานยาวนาน |
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อกล่องสูญญากาศ
- ประเภทของอาหาร: หากต้องการเก็บอาหารร้อน ควรเลือกกล่องแก้วหรือสแตนเลส หากต้องการพกพา ควรเลือกกล่องพลาสติก
- งบประมาณ : กล่องสแตนเลสจะมีราคาสูงที่สุด รองลงมาคือแก้ว และราคาประหยัดที่สุดคือพลาสติก
- ความถี่ในการใช้งาน : หากใช้งานบ่อย ควรเลือกวัสดุที่ทนทาน เช่น สแตนเลส หรือแก้ว
- ความปลอดภัย : เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานและปลอดภัยต่ออาหาร เช่น BPA Free
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- ตรวจสอบฉลาก : ก่อนซื้อ ควรอ่านฉลากบนผลิตภัณฑ์ เพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ และวิธีการดูแลรักษา
- เปรียบเทียบราคา : เปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้านค้า เพื่อหาสินค้าที่คุ้มค่า
- อ่านรีวิว : อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจ
แนะนำอ่าน : ทำความเข้าใจข้อดีข้อเสียของกล่องสูญญากาศแต่ละแบบ
ประเภทของกล่องสูญญากาศตามระบบการทำงาน
- กล่องสูญญากาศแบบใช้มือปั๊ม : ใช้แรงดูดจากการปั๊มมือเพื่อลดแรงดันอากาศภายในกล่อง
- ข้อดี : ราคาถูก พกพาสะดวก ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า
- ข้อเสีย : ต้องใช้แรงในการปั๊ม อาจไม่สะดวกสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาข้อมือ
- กล่องสูญญากาศแบบไฟฟ้า : ใช้มอเตอร์ในการดูดอากาศออกจากกล่อง
- ข้อดี : สะดวก รวดเร็ว ประหยัดแรง
- ข้อเสีย : ราคาสูงกว่า ต้องใช้ไฟฟ้า
- กล่องสูญญากาศแบบมีวาล์ว : มีวาล์วสำหรับเชื่อมต่อกับเครื่องซีลสูญญากาศ เพื่อดูดอากาศออก
- ข้อดี : ใช้งานง่าย ราคาไม่แพง
- ข้อเสีย : ประสิทธิภาพในการดูดอากาศอาจไม่ดีเท่าแบบปั๊ม
เลือกแบบไหนดี?
การเลือกกล่องสูญญากาศขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณ
- เน้นประหยัด : กล่องสูญญากาศแบบใช้มือปั๊มเป็นตัวเลือกที่ดี
- เน้นความสะดวกสบาย : กล่องสูญญากาศแบบไฟฟ้าตอบโจทย์ที่สุด
- เน้นใช้งานร่วมกับเครื่องซีล : กล่องสูญญากาศแบบมีวาล์วเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น
- วัสดุ : เลือกวัสดุที่ปลอดภัยต่ออาหาร เช่น พลาสติกเกรดอาหาร แก้ว หรือสแตนเลส
- ขนาด : เลือกขนาดให้เหมาะสมกับปริมาณอาหารที่ต้องการเก็บ
- ฟังก์ชันเสริม : บางรุ่นมีฟังก์ชันเสริม เช่น การปรับระดับการดูดอากาศ หรือการตั้งเวลา
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- เปรียบเทียบราคา : เปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้านค้า เพื่อหาสินค้าที่คุ้มค่า
- อ่านรีวิว : อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- เลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ : เพื่อความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า
ตารางเปรียบเทียบ ข้อดี-ข้อเสีย ของกล่องสูญญากาศแต่ละประเภท
สามารถเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละประเภทตามตารางด้านล่าง
ประเภท | ข้อดี | ข้อเสีย | เหมาะสำหรับ |
พลาสติก | น้ำหนักเบา ราคาถูก | อาจมีสารเคมี , อายุการใช้งานสั้น | อาหารแห้ง , อาหารทั่วไป |
แก้ว | ปลอดภัย ทนทาน | ราคาแพง , แตกหักง่าย | อาหารร้อน , ของเหลว |
สแตนเลส | แข็งแรง ทนทาน | ราคาสูง , น้ำหนักมาก | อาหารที่มีกลิ่นแรง , อาหารที่ต้องการความคงทน |
มือปั๊ม | ราคาถูก | ต้องใช้แรง | พกพา |
ไฟฟ้า | สะดวก รวดเร็ว | ราคาสูง | ปริมาณมาก |
มีวาล์ว | ใช้งานง่าย | ประสิทธิภาพอาจไม่ดี | อาหารทั่วไป |
การเลือกกล่องสูญญากาศให้เหมาะสมกับการใช้งาน
1. อาหารแห้ง
เมื่อต้องการเก็บรักษาอาหารแห้ง เช่น ธัญพืช ถั่ว หรือขนมปัง ให้เลือกกล่องที่มีฝาปิดสนิท เพื่อป้องกันความชื้นเข้าสู่อาหาร ความชื้นอาจทำให้อาหารแห้งเสียได้ง่าย และส่งผลต่อคุณภาพและรสชาติของอาหาร
2. อาหารสด
สำหรับอาหารสด เช่น ผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ ควรเลือกกล่องที่ทำจากวัสดุที่ปลอดภัยต่ออาหาร และมีระบบการดูดอากาศที่ดี เพื่อช่วยยืดอายุการเก็บรักษาอาหาร และรักษาคุณค่าทางโภชนาการ
- วัสดุที่ปลอดภัยต่ออาหาร ได้แก่ พลาสติกที่ไม่มีสารก่อมะเร็ง หรือแก้วที่ทนความร้อน
- ระบบการดูดอากาศที่ดี จะช่วยลดปริมาณออกซิเจนในกล่อง ซึ่งช่วยชะลอการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและยืดอายุการเก็บรักษาอาหารได้
3. อุ่นอาหารในไมโครเวฟ
หากต้องการอุ่นอาหารในไมโครเวฟ ให้เลือกกล่องที่ทนความร้อน และสามารถนำเข้าไมโครเวฟได้อย่างปลอดภัย เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการอุ่นอาหาร
- กล่องที่เหมาะสำหรับอุ่นในไมโครเวฟ ได้แก่ กล่องพลาสติกที่มีสัญลักษณ์ไมโครเวฟ หรือกล่องแก้วทนความร้อน
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้กล่องโฟมหรือพลาสติกที่ไม่ได้รับการรับรองสำหรับไมโครเวฟ เนื่องจากอาจเกิดการปนเปื้อนสารเคมีเข้าสู่อาหารได้
4. ขนาดและรูปทรง
การเลือกขนาดและรูปทรงของกล่องสูญญากาศ ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับปริมาณและชนิดของอาหารที่ต้องการเก็บ เพื่อประหยัดพื้นที่ และสะดวกต่อการจัดเก็บ
- หากต้องการแบ่งอาหารเป็นมื้อ ให้เลือกกล่องขนาดเล็กที่พอดีกับปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ
- สำหรับอาหารที่มีรูปทรงไม่สม่ำเสมอ เช่น ผลไม้ หรือขนมปัง อาจเลือกกล่องที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า เพื่อง่ายต่อการจัดเรียง
สรุป
การเลือกประเภทของกล่องสูญญากาศให้เหมาะสมกับการใช้งาน จะช่วยให้คุณเก็บรักษาอาหารได้นานขึ้น และยังช่วยลดปริมาณขยะอาหารได้อีกด้วย ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรพิจารณาถึงวัสดุที่ใช้ทำ ขนาด รูปทรง และระบบการทำงานของกล่อง รวมถึงงบประมาณที่มี
คำถามที่พบบ่อย
ควรเลือกชนิดที่ระบุว่า BPA Free และ Food Grade เพื่อความปลอดภัย
แก้ว Borosilicate มีความแข็งแรงทนทาน แต่ก็ยังมีโอกาสแตกได้หากโดนแรงกระแทก
เหมาะสำหรับเก็บอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น เนื้อสัตว์ ปลา