อ่านเกี่ยวกับกล่องสูญญากาศ วิธีการทำงาน และคำแนะนำในการเลือกและใช้งานเพื่อเก็บอาหารให้สดใหม่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น พร้อมคำถามที่พบบ่อยและคำตอบเป็นประโยชน์
กล่องสูญญากาศกลายเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ช่วยในการเก็บรักษาอาหารให้สดใหม่ได้นานขึ้น นอกจากจะช่วยลดการเสียของอาหารแล้วยังช่วยให้การจัดเก็บอาหารในครัวเรือนและธุรกิจสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพิ่มพื้นที่การจัดเก็บอาหารและช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
กล่องสูญญากาศคืออะไร?
กล่องสูญญากาศเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรักษาอาหารภายใต้สภาวะที่ควบคุมอากาศภายในภาชนะได้ดีเยี่ยม เทคโนโลยีนี้จะทำการสูบอากาศที่อยู่ภายในภาชนะออกทั้งหมดหรือบางส่วน เพื่อสร้างสภาวะสูญญากาศที่จำกัดการเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์และแบคทีเรียที่อาจทำลายอาหารได้ ด้วยเหตุนี้ อาหารที่เก็บไว้ในกล่องสูญญากาศจึงสามารถรักษาคุณภาพได้นานขึ้น ลดการเสียสภาพทั้งในด้านรสชาติ สี และโครงสร้างต่างๆ ของอาหาร
วัสดุที่ใช้ผลิตกล่องสูญญากาศ
วัสดุที่ใช้ในการผลิตกล่องสูญญากาศมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะที่เหมาะสำหรับการเก็บรักษาอาหารและการใช้งานที่แตกต่างกัน นี่คือรายการวัสดุหลักที่มักใช้ในการผลิตกล่องสูญญากาศ
1.พลาสติกชนิดพิเศษ
พลาสติกที่ใช้สำหรับกล่องสูญญากาศมักจะเป็นพลาสติกที่มีความทนทานสูง เช่น โพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate) หรือพลาสติกชนิด BPA-free ซึ่งปลอดภัยต่อการใช้งานกับอาหารและทนทานต่ออุณหภูมิและการเปลี่ยนแปลงทางเคมี
2.สแตนเลส
สแตนเลสเป็นวัสดุที่นิยมใช้ในการผลิตกล่องสูญญากาศเนื่องจากมีความทนทานต่อสนิมและการกัดกร่อน นอกจากนี้ยังสามารถทนต่ออุณหภูมิสูงและง่ายต่อการทำความสะอาด
3.แก้ว
แก้วเป็นอีกหนึ่งวัสดุที่ใช้สำหรับกล่องสูญญากาศ โดยมีข้อดีในเรื่องของความสามารถในการมองเห็นสิ่งที่เก็บไว้ข้างในได้ชัดเจน ไม่มีปฏิกิริยาทางเคมีกับอาหาร และสามารถใช้ในไมโครเวฟได้
4.ซิลิโคน
ใช้สำหรับทำซีลและปะเก็นในฝาปิดเพื่อให้กล่องมีความปลอดภัยและอากาศไม่สามารถเข้าไปในภาชนะได้ ซิลิโคนมีคุณสมบัติที่ยืดหยุ่น ทนต่ออุณหภูมิสูง และไม่มีการตอบสนองทางเคมีกับอาหาร วัสดุเหล่านี้ถูกเลือกใช้เพราะคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการเก็บรักษาอาหารให้สดใหม่ได้นาน ทนต่อการเปลี่ยนแปลงทางอุณหภูมิ และปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน
ประโยชน์ของกล่องสูญญากาศ
- ยืดอายุการเก็บรักษาอาหาร: ลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา ทำให้อาหารสามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น
- ลดการเสียดสีและการเกิดอากาศ: ช่วยลดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของอาหาร เช่น การเปลี่ยนสีหรือการเสียรส
- ความสะดวกในการจัดเก็บและพกพา: กล่องสูญญากาศมีขนาดและรูปทรงที่เหมาะสำหรับการจัดเก็บในตู้เย็นหรือพกพาไปนอกสถานที่
- ความหลากหลายในการใช้งาน: สามารถใช้เก็บรักษาอาหารทุกประเภท ตั้งแต่ผักและผลไม้ไปจนถึงเนื้อสัตว์และอาหารทะเล
วิธีการเลือกกล่องสูญญากาศ
เลือกกล่องสูญญากาศที่เหมาะสมต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย
1.คุณภาพของวัสดุ
เลือกวัสดุที่ปลอดภัยต่ออาหารและทนทานต่อการใช้งาน วัสดุที่ใช้ในการผลิตกล่องสูญญากาศควรเป็นวัสดุที่ไม่มีสารเคมีอันตรายหรือ BPA ที่อาจปล่อยออกมาเมื่อใช้งานภายใต้อุณหภูมิสูง นอกจากนี้วัสดุควรมีความแข็งแรงทนทานเพื่อรับมือกับการใช้งานซ้ำๆ และการล้างทำความสะอาด เช่น พลาสติกแบบพิเศษที่ทนต่อการกระแทก, สแตนเลส หรือแก้วที่ทนความร้อนได้ดี
2.ระบบสูญญากาศ
ระบบสูญญากาศที่มีประสิทธิภาพสามารถสูบอากาศออกจากภาชนะได้อย่างหมดจด ช่วยลดความเสี่ยงของการเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์และการออกซิเดชันที่อาจเกิดขึ้นกับอาหาร ระบบสูญญากาศที่ดีควรมีความสามารถในการปรับระดับความแรงของการสูญญากาศได้ เพื่อให้เหมาะสมกับชนิดของอาหารที่แตกต่างกัน
3.ขนาดและรูปแบบ
ขนาดและรูปแบบของกล่องสูญญากาศควรเลือกให้เหมาะสมกับปริมาณและชนิดของอาหารที่คุณต้องการเก็บรักษา กล่องที่มีรูปทรงและขนาดต่างๆ สามารถช่วยให้คุณจัดเก็บอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น กล่องขนาดเล็กเหมาะสำหรับเก็บอาหารเหลือที่น้อย ในขณะที่กล่องขนาดใหญ่เหมาะสำหรับเก็บผักหรือผลไม้ที่ต้องการพื้นที่เก็บรักษามากขึ้น นอกจากนี้กล่องที่มีรูปทรงกะทัดรัดและสามารถซ้อนกันได้จะช่วยประหยัดพื้นที่ในตู้เย็นหรือชั้นวางของ
การใช้งานกล่องสูญญากาศอย่างมีประสิทธิภาพ
- วิธีการใช้: ตรวจสอบคู่มือการใช้งานเพื่อให้เข้าใจวิธีการใช้และการดูแลรักษา
- คำแนะนำในการดูแลรักษา: ทำความสะอาดกล่องอย่างสม่ำเสมอและตรวจสอบความเรียบร้อยของซีลก่อนใช้งาน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกล่องสูญญากาศ
ตอบ: ขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารและการเก็บรักษา
ตอบ: ส่วนใหญ่สามารถใช้ได้ แต่อาจมีข้อจำกัดกับบางชนิด
ตอบ: ขึ้นอยู่กับวัสดุของกล่อง บางชนิดอาจทนความร้อนได้ แต่ควรตรวจสอบข้อแนะนำจากผู้ผลิตเพื่อความปลอดภัย
สรุป
กล่องสูญญากาศ คือเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในการเก็บรักษาอาหาร มันไม่เพียงแต่ช่วยให้อาหารสดใหม่ได้นานขึ้น แต่ยังเพิ่มความสะดวกในการจัดเก็บ ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทุกครัวเรือนและธุรกิจที่ต้องการความสะดวกและประหยัดในการจัดการอาหาร